คุณสมบัติของผ้าที่นำมาใช้ตัดเสื้อ 1

คุณสมบัติของผ้าที่นำมาใช้ตัดเสื้อ

    จากที่คุณผู้อ่านได้รู้มาส่วนหนึ่งแล้วว่า ผ้าที่นำมาตัดเสื้อยืดนั้น ได้แก่ ผ้าถุงกลมและผ้าพับ รวมถึง ผ้าบุ๊งคอ หรือ ผ้ากุ๊นคอเสื้อ กันไปคร่าวๆแล้ว แต่ทั้งผ้าถุงกลมและผ้าพับนั้น ยังมีคุณสมบัติ ที่ให้เนื้อผ้า แตกต่างกันเนื่องจากการทอที่ผสมเส้นใยที่แตกต่างกัน

     ตามความหมายทางวิทยาศาสตร์ เส้นใยหมายถึง วัสดุหรือสารใดๆทั้งที่เกิดจากธรรมชาติหรือที่มนุษย์สร้างขึ้น หากนำมาทอเป็นผ้าก็จะเป็นองค์ประกอบที่เล็กที่สุดของผ้า ไม่สามารถแยกย่อยในเชิงกลได้อีก โดยแบ่งออกเป็น ๓ อย่าง

คุณสมบัติของผ้าที่นำมาใช้ตัดเสื้อ

    จากที่คุณผู้อ่านได้รู้มาส่วนหนึ่งแล้วว่า ผ้าที่นำมาตัดเสื้อยืดนั้น ได้แก่ ผ้าถุงกลมและผ้าพับ รวมถึง ผ้าบุ๊งคอ หรือ ผ้ากุ๊นคอเสื้อ กันไปคร่าวๆแล้ว แต่ทั้งผ้าถุงกลมและผ้าพับนั้น ยังมีคุณสมบัติ ที่ให้เนื้อผ้า แตกต่างกันเนื่องจากการทอที่ผสมเส้นใยที่แตกต่างกัน

     ตามความหมายทางวิทยาศาสตร์ เส้นใยหมายถึง วัสดุหรือสารใดๆทั้งที่เกิดจากธรรมชาติหรือที่มนุษย์สร้างขึ้น หากนำมาทอเป็นผ้าก็จะเป็นองค์ประกอบที่เล็กที่สุดของผ้า ไม่สามารถแยกย่อยในเชิงกลได้อีก โดยแบ่งออกเป็น ๓ อย่าง

๑ เส้นใยธรรมชาติ  คือ เส้นใยที่ได้จากพืช สัตว์ และแร่ธาตุ

     จากพืช เช่น ฝ้าย ลินิน ปอ ป่าน

     จากสัตว์ เช่น ขนสัตว์ ไหม เส้นผม

      จากแร่ธาตุ เช่น ใยหิน

๒ เส้นใยประดิษฐ์ คือ เส้นใยที่มนุษย์สร้างขึ้นในสองลักษณะ โดยแบ่งออกเป็น

   - เส้นใยที่ประดิษฐ์จากธรรมชาติ เช่น ไตรอะซีเทต อะซิเทต เรยอน

   - เส้นใยสังเคราะห์ เช่น โพลีเอสเทอร์ โพลีอรามิด ไนลอนโอเลฟินส์

๓ เส้นใยที่ประดิษฐ์จากวัสดุอื่นๆ เช่น กราไฟต์ เซรามิค แก้ว โลหะ

     ในอุตสาหกรรมการทอผ้านั้น กระบวนการผลิตเส้นใยและชนิดของเส้นใย คือตัวบ่งบอกถึงคุณภาพของเนื้อผ้า ทั้งในด้านการเรียงตัวของเส้นใยที่มีความหนาแน่นสม่ำเสมอ การกำจัดสิ่งสกปรกแปลกปลอมออกจากเส้นใย เพื่อให้ได้เส้นด้ายที่มีคุณสมบัติที่ดี เมื่อนำไปทอเป็นผ้าผืนจึงมีหลายเกรด หลายราคา

    ดังนั้น ก่อนจะซื้อผ้ามาตัดเป็นเสื้อหรือเสื้อยืดเพื่อนำมาทำ สกรีน จึงต้องรู้ถึง เนื้อผ้าที่มีใยต่างกัน  เพื่อให้ได้คุณภาพ  ตรงตามคุณสมบัติ  ตรงตามวัตถุประสงค์ในการใช้งาน โดยเนื้อผ้าที่นำมาทำเสื้อยืดนั้น  แบ่งได้เป็น ๓ ประเภทได้แก่

                                         ๑. ผ้าคอตต้อน 100%

    หรือที่เรียกกันว่า ผ้าฝ้าย100%  เป็นผ้าที่

      ด้วยการนำปุยฝ้ายเส้นเล็กๆ จากดอกฝ้ายที่แก่เต็มที่เก็บเกี่ยวแล้วนำมาแยกสิ่งปลอมปนที่ไม่ต้องการออก จากนั้นทำการแยกเมล็ดออกจากเส้นฝ้าย ตามมีราคาสูง เพราะผลิตจากเส้นใยที่ได้จากฝ้ายธรรมชาติ100%ด้วยการสางใยและหวีเส้นใย เพื่อแยกเส้นใยที่สั้นเกินออกไป แล้วนำมาปั่นให้เป็นเส้นด้าย เพื่อนำมาทอเป็นผ้าผืน

      เนื้อผ้าจึงมีลักษณะนุ่มและด้าน ไม่มีความกระด้าง ระบายอากาศได้ดี ทำให้สวมใส่สบาย ไม่อมเหงื่อ สามารถซับเหงื่อได้ดีเยี่ยมเหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานกลางแจ้งหรือต้องโดนแดดบ่อยๆแต่มีข้อเสีย เล็กๆน้อยๆ คือ ยับง่ายและรีดยากกว่าผ้าชนิดอื่น

      เมื่อชักบ่อยๆจะย้วยและหดตัวเมื่อผ่านการซัก สอง สาม น้ำแรก แต่ปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาทำให้ปัญหานี้เริ่มจะหมดไป ซึ่งการยืด หด ย้วย ยังมีอยู่ แต่ก็น้อยลง

     ในการนำผ้าคอตต้อน 100% มาทำเป็นเสื้อยืดนั้นสามารถสกรีนลงสีได้หลายสี หลายครั้งกว่าผ้า TC หรือ ผ้า TK  ซึ่งผ้าสองชนิดหลังนี้จะสกรีนได้อย่างมากแค่สองสีหรือสองจุดเท่านั้น เพราะมิฉะนั้นผ้าจะเสียทั้งนี้ผ้าคอตต้อน 100%  สามารถแบ่งเกรดผ้าฝ้ายที่ผ่านกระบวนการผลิตได้ ๓ เกรดคือ

        ๑.๑ Cotton Comb เป็นผ้าคอตต้อนที่ดีสุด ลักษณะของผ้าจะมีความเนียนและเงามาก ราคาจะสูงกว่าผ้าคอตต้อนชนิดอื่นๆด้วยการนำฝ้ายมาผ่านกระบวนผลิตเส้นด้ายโดยวิธีการหวีเส้นใยด้วยเครื่องจักร ซึ่งมีกระบวนที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนมากกว่าแบบการสาง         

      ทำให้ได้ผลผลิตเป็นเส้นด้ายขนาดเล็ก คือเบอร์ 32 ขึ้นไปจึงสามารถจึงสามารถขจัดสิ่งสกปรกออกจากเส้นใยได้ในเปอร์เซ็นที่มากกว่า

       รวมถึงได้เส้นด้ายที่มีเส้นใยที่ยาวกว่า เมื่อนำมาทอเป็นผ้าผืนจึงเป็นผ้าที่เนื้อดีมีความนุ่มสูง มีกระด้างในระดับต่ำ เหนียวทน ขาดยาก มีความมัน

       ๑.๒  Cotton Semi  เป็นผ้าคอตต้อนเกรดปานกลาง  ผ้าจะมีความเนียน ณ ระดับหนึ่ง ไม่กระด้าง ราคาไม่สูง และคุณภาพค่อนข้างใช้ได้

       โดยคอตต้อน ชนิดนี้จะผ่านกระบวนการผลิตเส้นด้ายโดยวิธีการสางเส้นใยฝ้ายโดยเครื่องจักร ทำให้ได้ผลผลิตเป็นเส้นด้ายใยสั้น ที่มีขนาดใหญ่ คือ เบอร์ 20-32 จึงมีความเนียนนุ่มและกระด้างในระดับปานกลาง

        ๑.๓  Cotton OE  เป็นผ้าคอตต้อนเกรดต่ำที่สุด  มีราคาถูกสุดทั้งเรื่องของต้นทุนในการใช้เครื่องจักร และต้นทุนของกระบวนการในการผลิตจากเส้นใยฝ้าย เรียกได้ว่าเป็นเส้นด้ายที่มีต้นทุนที่ต่ำที่สุด เพราะไม่ผ่านกระบวนการคัดคุณภาพของเส้นใยฝ้ายใดๆ

         จึงทำให้เสื้อยืดที่ผลิตจากผ้าคอตต้อนชนิดนี้ จะมีความกระด้างกว่า ผ้า Cotton Semi และ ผ้า Cotton Comb และมีความเหนียวต่ำ จึงขาดง่าย

         ถึงตรงนี้ผู้อ่านอาจจะงงถึงการนำเสนอในเรื่อง เบอร์ของผ้าคอตต้อน ซึ่งเป็นผ้าคอตต้อน 100% ที่นำมาผลิตเสื้อยืดสามารถแบ่งตามเบอร์เส้นด้าย โดยทั่วไปได้ 3 เบอร์ คือ 20- 32-และ 40  โดยมีหลักคือ ถ้าเบอร์ต่ำจะใช้ด้ายเส้นใหญ่ เบอร์สูงขึ้นจะใช้ด้ายเส้นเล็ก เช่น

         ผ้าคอตต้อน 100% เบอร์ 20 ที่นิยมนำมาใช้ทำเสื้อยืดและเสื้อโปโลของผู้ชาย และผ้าคอตต้อน 100% เบอร์ 32 สำหรับใช้ทำเสื้อยืด สำหรับผู้หญิง จึงมีราคาต่างกัน

         กล่าวคือเบอร์ 20 จะมีเนื้อผ้าหนามากกว่าเบอร์ 32 เพราะขนาดเส้นด้ายที่ใหญ่กว่า แต่จะมีคุณภาพด้อยกว่าเบอร์ 32

        สำหรับเบอร์เส้นด้ายที่สูงเกิน 40 ขึ้นไป จะพบเห็นได้ไม่มากนักในท้องตลาด นิยมนำมาทำเสื้อสำหรับเด็กอ่อน หรือเสื้อที่เน้นความบางเป็นพิเศษ รวมถึงเสื้อยืดแบรนด์เนมต่างๆ

          แต่ส่วนใหญ่เบอร์ 40 จะเป็นผ้าที่ต้องสั่งทอขึ้นโดยเฉพาะตามเบอร์ที่ต้องการ เพราะกระบวนการในการผลิต (ปั่นเส้นด้าย) ให้เส้นด้ายมีขนาดเล็กนั้น ต้องอาศัยเครื่องจักรและกระบวนผลิตที่ยุ่งยากซับซ้อน จึงมีต้นทุนในการผลิตที่สูง เมื่อนำมาผลิตเสื้อยืดก็จะมีต้นทุนสูงตามไปด้วย

           ที่กล่าวมานี้จึงแสดงให้เห็นว่า คอตต้อน 100%  เบอร์ต่างๆนั้นมีคุณภาพแตกต่างกันไป เมื่อนำมาทอเป็นเสื้อยืดก็จะได้คุณภาพและราคาที่ต่างกัน ทำให้คุณสามารถเลือกเบอร์ของผ้าคอตต้อน 100% มาตัดเป็นเสื้อยืดได้ตามวัตถุประสงค์

          ๑.๔  Orgdnic Cotton  หรือที่เรียกว่า ผ้าฝ้ายอินทรีย์  เป็นผ้าคอตต้อนที่มีราคาแพง ในประเทศไทยยังมีผู้ประกอบการไม่มากนักแต่ค่อยๆได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน

         ตัวอย่างที่ดีได้แก่ การผลิตผ้าฝ้ายอินทรีย์ ที่เรียกว่า โจคะ (JOCA) ในประเทศญี่ปุ่น ด้วยการปลูกและบำรุงดูแลโดยการปลอดสารเคมีและยาฆ่าแมลง ผ่านความเข้มงวดและมาตรฐานในการผลิตขั้นสูง เพื่อป้องกันพืชและสารบำรุงพืช ดังนั้นการตรวจสอบวิเคราะห์พืชและดิน จึงเป็นไปตามกระบวนการอย่างเคร่งครัด

         เมื่อฝ้ายอินทรีย์ ถูกเก็บเกี่ยวเป็นวัตถุดิบ จะถูกนำผ่านกระบวนการผลิตตามลำดับขั้น คือ กรอฝ้าย ทอหรือถัก ย้อม และตกแต่งชิ้นงาน จากนั้นจึงนำมาเย็บให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์โดยใช้สารเคมีน้อยที่สุดหรือไม่ใช้เลย

        ผลิตภัณฑ์ฝ้ายชนิดนี้จึงมีความปลอดภัย สำหรับทารกและคนทั่วไปที่ผิวหนังแพ้ง่าย สามารถใช้ได้อย่างวางใจ

 เส้นใยธรรมชาติ

เส้นใยสังเคราะห์

เส้นใยประดิษฐ์จากวัสดุอื่นๆ

• < ก่อนหน้า
• ต่อไป >