ผลิตเสื้อโปโลเอง

ซื้อเสื้อโปโลมาตัดเอง และสกรีนเองหรือเปิดโรงงาน  เป็นการลงทุนสูงและเสียเวลาในการผลิต หากครอบครัวหรือคนรู้จักของคุณไม่ใช่โรงงานเย็บผ้า เพราะคุณต้องซื้อผ้ายืดสำหรับเป็นผ้าดิบมาตัดเอง ต้องมาทำป้ายยี่ห้อ ทำตราสินค้า สกรีนหรือพิมพ์ลายลงบนตัวเสื้อโปโลยืดเอง  ซึ่งเป็นการกระทำหลายขั้นตอนมาก

          เริ่มต้นที่คุณต้องเลือกซื้อผ้ายืดที่นำมาตัดเป็นเสื้อโปโลและ ผ้าบุ๊งคอ สำหรับทำคอเสื้อโปโลตามแหล่งขายส่ง เช่น ซอยวัดสน-ประชานิเวศน์ พาหุรัดชั้น 2 ตรงข้ามไชน่าเวิลด์หรือด้านข้างเมอร์รี่คิงส์  ด้านติดกับไชน่าเวิลด์ รวมถึงหลายๆร้านในสำเพ็งแถวตลาดบางลำพู

           หรือแหล่งใกล้บ้านตามย่านการค้า ในตัวอำเภอหรือจังหวัดของคุณ ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีราคาแพงกว่าแหล่งจำหน่ายในกรุงเทพฯ ที่กล่าวมาทำให้ผู้ประกอบธุรกิจเสื้อโปโลยืดส่วนใหญ่ แม้จะอยู่ไกลถึงต่างจังหวัด ก็มักจะเลือกลงมาซื้อยังแหล่งที่กรุงเทพฯ เพราะมีให้เลือกมากกว่าในจังหวัดของตัวเองและราคาถูกกว่า

          ส่วนผ้าที่คุณเลือกซื้อนั้นต้องเลือกให้เป็น  เพราะมีหลายเกรด หลายราคา ผ้ามีให้เลือกหลายชนิดมากที่นิยมคือ ผ้าถุงกลม  คือผ้าสำหรับตัดเสื้อโปโลยืดที่ไม่มีตะเข็บข้าง และผ้าพับ  คือผ้าที่ตัดแล้วมาเย็บข้างประกอบตัว ส่วนมากนิยมใช้ผ้าพับ เบอร์ 32 ขายกันเป็นพับ เรียกว่าซื้อยกพับ ตกพับละประมาณ 3,000 กว่าบาท

          ผ้าหนึ่งพับหากตัดเสื้อโปโลยืด  หนึ่งสีหนึ่งแบบ  จะต้องทำ 3 ไซส์ คือ S,M, L โดยจะสามารถตัดเสื้อโปโลผู้หญิงได้ประมาณ 100 ตัว แต่ถ้าตัดปนไซส์กับผู้ชาย อาจจะได้สักประมาณ 70 ตัว หากคุณต้องการให้ได้หลายสีก็ต้องซื้อหลายพับ ก็ยิ่งต้องลงทุนมาก

          ยิ่งเป็นมือใหม่ในการทำธุรกิจ ควรเน้นทำเสื้อโปโลสีเดียวหรือไม่กี่สีและเป็นสีพื้นๆที่ขายได้ไม่ยาก จำพวกสี ขาว ดำ เทา น้ำตาล เพราะเฉดสีของผ้าจะแตกต่างกันไปตามราคา ผ้าสีอ่อนราคาจะถูกหน่อย เฉดสีกลางๆก็อีกหนึ่งราคา สีเข้มขึ้นก็ราคาแพงขึ้น

          นอกจากจะต้องจะต้องยุ่งเลือกการซื้อผ้าและคำนวณผ้าสำหรับตัดเสื้อโปโลยืดแล้ว คุณยังต้องยุ่งกับองค์ประกอบอื่นๆอีก ได้แก่ การซื้อผ้ามาทำคอเสื้อโปโลหรือที่เรียกว่า ผ้าบุ๊งคอหรือ ผ้ากุ๊นคอเสื้อโปโล  เป็นผ้าที่มีราคาไม่แพงและต้องเป็นสีเดียวกันกับผ้าที่ใช้มานำตัดเสื้อโปโล การซื้อผ้าบุ๊งคอครั้งละมากๆจะได้ราคาต่อชิ้นถูกลง หรือคุณอาจตัดเสื้อโปโลยืดแบบทำกุ๊นคอโดยใช้ผ้าในตัวก็ได้ ก็จะเป็นการประหยัดค่าผ้ากุ๊นไปได้มาก

           ส่วนป้ายยี่ห้อก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่คุณต้องเจอ เพราะคุณต้องสั่งทำในปริมาณมากๆ ครั้งละหลายพันชิ้นจนอาจจะเกินความจำเป็นเพราะคุณอาจยังไม่ได้ผลิตเสื้อโปโลยืดถึงพันตัว และยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ก็มีวิธีลดต้นทุนที่ทำได้ง่ายๆคือแทนที่จะไปจ้างผลิตป้ายเป็นพันๆชิ้น ก็ใช้วิธีสกรีนลายยี่ห้อหรือโลโก้ลงบนผ้าผืน แล้วตัดเป็นแผ่นเล็กๆนำมาเย็บติดกับคอเสื้อโปโล จะช่วยประหยัดได้มากและการสร้างเอกลักษณ์ได้เป็นอย่างดี

             ปัญหาต่อมาที่คุณต้องเจอคือ เรื่องของการปฏิบัติ ซึ่งคุณหรือคนที่ให้เขาเป็นช่างตัดผ้าเสื้อโปโลยืด จะต้องมีความชำนาญในการตัดผ้ายืดให้ออกมาเป็นตัวเสื้อโปโล มิฉะนั้นอาจเกิดปัญหาการยืด-หด จากกระบวนการตัดเย็บของช่างในขั้นตอน การดึงผ้าให้ตึง ได้ง่ายๆเป็นการตั้งหน้าผ้าให้ตึงคงรูป ให้มีความเรียบ เพื่อทำการตัดผ้ายืดเพื่อนำมาทำเป็นเสื้อโปโลยืดได้ง่ายตาม แนวมาร์คเกอร์  ของแพทเทิร์นทรงเสื้อโปโลที่ต้องการ

              ในการดึงผ้าให้ตึงนี้  ช่างตัดจะต้องเผื่อค่าที่เรียกว่า Over Feed เพื่อชดเชยการดึงผ้าทางด้านกว้างและยาวของหน้าผ้าก่อนตกแต่งสำเร็จที่อาจมีการดึงมากเกินไป อันจะส่งผลต่อการยืด-หด โดยการดึงด้านกว้างนั้นผ้าจะถูกดึงประมาณ 8% ส่วนด้านยาวของผ้าจะถูกดึงด้วยลูกกลิ้งที่ขัดกันไปมาประมาณ 5-6%

             ซึ่งผ้าบางชนิดที่ทอมาหลวมๆนั้น โครงสร้างจะถูกดึงในลักษณะต่างๆจนเกิดการยืด-หดในเวลาต่อมาคือหลังจากที่ลูกค้าซักครั้งแรกเพราะการดึงที่มากเกิน ได้แก่

-          ด้านยาวถูกดึงให้ตึงมากเกินไป  แม้จะได้รูปไปทางขวา แต่หลังจากลูกค้าซื้อไปแล้วหลังการซักครั้งแรกชายเสื้อโปโลด้านข้างจะหด

-          ด้านกว้างถูกดึงมากเกินไป  แม้จะได้รูปตรงกลางและมีความหลวมแบบพอดีตัวแต่หลังจากลูกค้าซื้อไปแล้ว  หลังการซักครั้งแรก โครงเสื้อโปโลจะหดกลับจนแน่นขึ้นกว่าเดิม

          เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น คุณจะต้องใส่ใจกับรายละเอียดปลีกย่อยเพื่อทำการแก้ไข ด้วยการใช้เครื่องดึงผ้าที่ก่อให้เกิดแรงตึงน้อยชดเชยแรงตึงได้สูง หรือมีเครื่องรีดไอน้ำ เพื่อทำให้ผ้าหดตัวกลับ

ทั้งนี้นอกจากปัญหาการยืดหดของผ้าที่จะส่งผลต่อความรู้สึกของลูกค้าหลังซื้อเสื้อโปโลยืดของคุณไปแล้ว คุณยังต้องคำนึงถึงปัญหาต่างๆหรือรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆที่ตามมาอีกด้วย

เช่น การหาซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ให้ครบ ได้แก่ โต๊ะตัด เครื่องตัดไฟฟ้า ที่คุณจะให้ความสำคัญกับการวางผ้า ต้องคำนวณดีๆเพื่อที่จะไม่ต้องเสียผ้าไปโดยเปล่าประโยชน์ ส่วนจักรเย็บผ้าที่ใช้ต้องเป็นจักรโพ้ง สำหรับขอบผ้ายืดหรือจักรอุตสาหกรรม

       จากที่กล่าวมานั้น คุณผู้อ่านคงพอจะเห็นถึงความยุ่งยากในการลงทุนในลักษณะนี้  จากนั้นเมื่อตัดเสื้อโปโลยืดได้ตามจำนวนที่คุณต้องการแล้วก็มาถึงการสกรีนลาย หากคุณสกรีนลายได้เอง ก็ช่วยประหยัดต้นทุนไปได้มากสามารถขายเสื้อโปโลยืดได้ในราคาไม่สูงมากนัก เฉลี่ยขายปลีกตัวละ 120-140 บาท แต่ถ้าหากคุณทำได้แค่ออกแบบก็ต้องไปร้านสกรีน ซึ่งก็จะมีต้นทุนทั้งค่าบล็อกสกรีน และค่าแรงจ้างสกรีนเพิ่มขึ้น

          ดังนั้นถ้ายังไม่มีความพร้อม ไม่มีทุนมาก ยิ่งถ้าคุณคิดจะเปิดโรงงานผลิตเสื้อโปโลยืดครบวงจรนั้น มีปัญหาที่คุณต้องเผชิญมากมาย

         โดยเฉพาะเรื่องหาช่างฝีมือดีให้ได้ เมื่อหาได้แล้วต้องเลี้ยงเขาด้วยกายและใจ ไหนจะเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ การประกันสังคม ภาษีเรื่องคนลาออก ต้นทุนสินค้า ฯลฯ แต่ก็มีข้อดีคือ สามารถควบคุม คุณภาพการผลิตได้ตามที่คุณต้องการ แต่ทำให้คุณเหนื่อยกับการทำงานและควบคุมเองทุกขั้นตอน จนอาจทำให้เกิดความท้อแท้ได้

            เมื่อเป็นเช่นนี้ คุณสามารถหาทางออกเพื่อลดภาระทั้งในเรื่องของ การควบคุมการผลิต การบริหารและเงินทุน ด้วยการผลิตเองได้ในอีกลักษณะ ได้แก่

• < ก่อนหน้า
• ต่อไป >